1 กันยายน 2555

38 ประสบการณ์เฉียดตาย_2

38

สี่ชีวิตแหวกว่ายอยู่กลางเวิ้งน้ำ ความหวาดหวั่นข้างในหัวใจค่อย ๆ จู่โจมเข้ามาอย่างบ้าคลั่ง คนที่มีสติดีที่สุดน่าจะเป็นคุณพ่อสกล เสียงตะโกนเรียนชาวบ้านที่กำลังเคลื่อนไหวอยู่บนท่าน้ำไกลลิบ ๆ ออกไป ผมเหลือบตามองไปที่จุดเล็ก ๆ นั่น แต่ ณ วินาทีนี้  เรี่ยวแรงทั้งหมดถูกใช้เพื่อพยุงลมหายใจให้ไหลเวียนต่อไป  ผมกอดกระเป๋ากล้องถายรูปไว้แนบอก ความรู้สึกข้างในบอกว่าเอาชีวิตให้รอดก่อน ส่วนกล้องถ่ายรูปพร้อมเลนส์ชุดละสี่หมื่นกว่า โทรศัพท์มือถือ กระเป๋าเงิน ฯลฯ ยังรอการไว้อาลัยอยู่ภายหลัง หมดแล้ว หมดกัน  ผมคิดในใจพร้อมทั้งขยับแขนขาต่อไป  ใครคนหนึ่งบอกให้เราลอยคอแทนที่จะออกแรงว่ายเพื่อให้เสียพลังงานน้อยที่สุด เสียงตะโกนเรียกชาวบ้านยังดังต่อไป  ไม่นานผมได้ยินเสียงสวรรค์ดังขึ้น "เรือกำลังมาแล้ว"  โอ้พระเจ้า หากผมต้องลอยคอรอคอยต่อไปอีกสักสิบนาที  ก็ไม่แน่ว่า จะได้ขึ้นไปยืนหรือนอนเรียงรายร่วมกับคนอื่น ๆ บนฝั่ง สักพัก เสียงเรือเครื่องเข้ามาใกล้ ๆ  พวกเราค่อย ๆ ทะยอยกันขึ้นไปนั่งบนเรือด้วยอาการตื่นเต้นที่เปลี่ยนเป็นความโล่งใจระคนเหนื่อยอ่อน  ข้าวของส่วนหนึ่งที่จมน้ำคงนึกน้อยใจพวกเราที่ทิ้งมันได้อย่างเลือดเย็น ส่วนที่ลอยน้ำได้ก็กระจัดกระจายไปรอบ ๆ  รวมทั้งรองเท้าสองข้างของผมด้วย
เรือค่อย ๆ นำเราเข้าสู่ฝั่งอีกครั้ง ผมเชื่อว่าความรู้สึกหลากหลายกำลังถูกกักเก็บไว้ในหัวใจของเราทั้งสี่อย่างไม่อาจปกปิด สำหรับผม ผมรู้สึกว่าพระเจ้าช่วยเหลือเราที่รอดชีวิตมาได้ด้วยความบังเอิญที่มีชาวบ้านลงมาที่ท่าน้ำพอดี และแน่นอนเขาได้ยินเสียงร้องให้ช่วยของพวกเรา  และนอกจากความรู้สึกนั้น ผมอยากร่ำไห้ให้กับกล้องถ่ายรูปและโทรศัพท์มือถือที่สนนราคารวมกันเกือบครึ่งแสน  บอกไม่ถูกจริง ๆ ว่าการมีชีวิตรอดกับการสูญเสียของรักราคาแพงไป  อะไรทำให้ผมรู้สึกแย่กว่ากัน แต่แน่นอน  ผมยังมีชีวิตอยู่ร่วมกับเพื่อน ๆ อีกสามชีวิต  ชาวบ้านช่วยเราออกไปลากเรือที่คว่ำหน้าลอยคอกลับเข้าฝั่ง ผมได้รองเท้าแตะสองข้างคืน พวกเราต้องซื้อเครื่องยนต์คืนให้เจ้าของเรือ หลังจากเดินหมดแรงขึ้นมาถึงเรือน เราเอาอุปกรณ์ต่าง ๆ ออกมาผึ่งลมด้วยความเสียดาย ผมเข้าไปนอนในเต็นท์เคียงข้างพ่อเสาร์ หวังว่าตื่นขึ้นมาอีกครั้ง ทุกอย่างจะเป็นเพียงฝันร้ายที่เพิ่งผ่านพ้นไป!!!

1 ความคิดเห็น:

  1. อ่าน แล้ว รับรู้ความรู้สึกในวินาทีนั้นได้เลย ......

    ตอบลบ